Ep.990 อย่าเป็นคนกบฏ

Soul Food Podcasts

พระธรรมนำชีวิต ตอน หยุดเป็นคนกบฎ Ep.990 พระเจ้ายังคงเป็นพระเจ้าองค์เดิมที่ยังเกลียดชังความบาป และโกรธจนต้องการจะทำลายมนุษย์ทุกครั้ง แต่เพราะพระเจ้าเป็นความรัก พระองค์จึงยับยั้งความต้องการของพระองค์ ด้วยพระเยซูที่ยอมสละพระองค์เองมาเป็นมนุษย์ เรื่องราวในวันนี้โมเสสพาคนอิสราเอลที่ออกจากการเป็นทาสรุ่นที่ 2 ได้รู้และจำให้ได้ว่าพ่อแม่ของพวกเขาได้ทำอะไรไว้กับพระเจ้าบ้าง “เพราะฉะนั้นท่านพึงทราบเถิดว่า ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแผ่นดินดีนี้ให้ท่านยึดครองนั้น ไม่ใช่เพราะความชอบธรรมของท่าน เพราะว่าท่านเป็นชนชาติที่หัวแข็ง” เฉลยธรรมบัญญัติ 9:6 โมเสสอยากให้เขารู้และเข้าใจว่าที่พระเจ้าประทานดินแดนนั้นให้ไม่ใช่เพราะความดีของพวกเขา โมเสสจึงบอกย้ำพวกเขาอีกครั้ง แล้วจบด้วยคำที่พระเจ้าตรัสบอกโมเสสว่า คนอิสราเอลเป็นคนดื้อ หัวแข็ง “จงจำไว้และอย่าลืมว่า ท่านได้ทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงพระพิโรธที่ในถิ่นทุรกันดาร ตั้งแต่วันที่ท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ จนกระทั่งพวกท่านมาถึงสถานที่นี้ พวกท่านมักกบฏต่อพระยาห์เวห์อยู่เรื่อยมา” เฉลยธรรมบัญญัติ 9:7 โมเสสได้เล่าเรื่องราวหลายเรื่องที่พ่อแม่ของเขาทำที่เป็นการยั่วยุให้พระเจ้าโกรธพระเจ้าจนพระเจ้าต้องการทำลายพวกเขา ในพระวจนะของพระเจ้าเรียกการกระทำนี้ว่าเป็นกบฎ ขอให้พวกเราหยุดสิ่งนั้นที่ทำอยู่ เพราะเราจะถูกนับว่าเป็นกบฎเมื่อหมดเวลาคนกบฎต้องถูกลงโทษเสมอ ให้เราคิดถึงและรู้ว่ามนุษย์อย่างเรายังยั่วยุความโกรธของพระเจ้าอยู่ โมเสสได้ได้เล่าเรื่องราวแรกที่พ่อแม่เขาทำ ซึ่งเป็นไปได้ว่าบางคนที่ฟังอยู่นั้นยังไม่เกิดเลย เรื่องราวแรกคือพวกเขาสร้างรูปเคารพไว้กราบไหว้ เมื่อโมเสสไปเข้าเฝ้าพระเจ้าเพื่อรับถ้อยคำ คำสั่งต่างๆจากพระเจ้า 40 วัน 40 คืน พวกเขาก็รู้สึกหวั่นไหว และคิดว่าโมเสสจะไม่กลับมาแล้ว พวกเขาจึงรวบรวมทองคำที่นำออกมาจากประเทศอียิปต์และขอให้อาโรนทำเป็นรูปวัวทองคำสำหรับกราบไหว้ พระเจ้าโกรธอาโรนและประชาชนอย่างมาก แม้ว่าตอนนั้นเขาจะไม่รู้ว่าพระเจ้าสั่งว่า อย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากพระองค์ และอย่าทำรูปเคารพสำหรับกราบไหว้ พวกเขาก็ทำในสิ่งที่พระเจ้าเกลียดชัง และถือเป็นการยั่วยุให้พระเจ้าโกรธอย่างมาก พระวจนะของพระเจ้าบันทึกว่ากฎเกณฑ์และกฎหมายนั้นมาจากพระเจ้าโดยพระหัตถ์ของพระองค์เอง พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่าให้รีบกลับมาดูประชากรของพระองค์ เพราะว่าเขาเสื่อมทรามไปแล้ว และหันไปสนใจพระอื่นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสิ่งนี้ทำให้พระเจ้าโกรธพวกเขาอย่างรุนแรง “เพราะข้าพเจ้ากลัวพระพิโรธและความเกรี้ยวกราดอย่างรุนแรง ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงมีต่อท่าน จนถึงกับจะทรงทำลายท่านอยู่แล้ว แต่พระยาห์เวห์ทรงฟังข้าพเจ้าในครั้งนั้นด้วย” เฉลยธรรมบัญญัติ 9:19 โมเสสที่อยู่ใกล้พระเจ้าสัมผัสได้ถึงอานุภาพความโกรธของพระเจ้าว่ารุนแรงขนาดไหน ถึงกับออกปากว่าเขากลัว พระเจ้าสร้างให้เราเองเป็นพระฉายาของพระองค์ มนุษย์จึงสะท้อนถึงความเป็นพระเจ้า พ่อก็มีความรัก เป็นห่วง ลูกของตัวเอง พ่อจะใจดีเสมอกับลูกรักและเชื่อฟัง แต่ลูกก็ต้องรู้ว่าพ่อก็น่ากลัวมาก ถ้าลูกไม่เชื่อฟัง เรื่องราวนี้สะท้อนถึงลักษณะของพระเจ้า ซึ่งพระองค์มีสิทธิอำนาจในการตัดสินใจ ในการทำทุกอย่างกับคนของพระองค์ เพราะพระเจ้าเป็นพระผู้สร้าง พระองค์สร้างทุกสิ่งและต้องการให้ทุกสิ่งเป็นไปตามความต้องการของพระองค์ ขอพระเจ้าเมตตานำให้เรารู้ว่า พระเจ้ายังคงเป็นพระเจ้าองค์เดิม ที่เกลียดชังความบาป และการกระทำบาปนั้นถือเป็นการกบฏ คือทำในสิ่งที่พระเจ้าไม่ชอบ การทำในสิ่งที่พระเจ้าไม่ชอบนั้นถือเป็นการยั่วยุให้พระเจ้าโกรธ สำหรับคนอิสราเอลเขามีโมเสสที่คอยยับยั้งความโกรธของพระเจ้า สำหรับเราขอบพระคุณพระเจ้าที่เรามีพระเยซูคริสต์มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดจากความโกรธของพระเจ้า ขอให้เราอย่าเพลิดเพลินไปทำในสิ่งที่พระเจ้าเกลียดชัง เพราะเมื่อหมดเวลาเราจะถูกนับว่าเป็นกบฏ และไม่มีกบฏคนไหนที่ไม่ถูกจับมาลงโทษ ในความคิดเห็นของผม โทษของกบฏน่าจะหนักกว่าโทษของศัตรูปกติอีก ขอให้พวกเราจะยังคงเรียนรู้ ใส่ใจ ระมัดระวังที่จะทำตาม ถ้อยคำ กฎเกณฑ์และกฎหมายของพระเจ้าทุกประการ เพราะว่าพระเจ้าทรงรักเรา เราจึงตอบสนองต่อถ้อยคำของพระองค์ด้วยความรักเช่นกัน พรุ่งนี้เราจะกลับมาต่อกับเหตุการณ์ที่คนอิสราเอลยั่วยุให้พระเจ้าโกรธที่มัสสาห์และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์ วุฒิ วงศ์สรรเสริญ