Ep.75 ยังพูดโกหกกันอีก ได้อย่างไร?

Soul Food Podcasts

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (75) ยังพูดโกหกกันอีก ได้อย่างไร? “อย่าพูดโกหกต่อกันและกัน เพราะว่าท่านได้ปลดวิสัยมนุษย์เก่ากับพฤติกรรมของมนุษย์นั้นแล้ว” ~โคโลสี 3:9 THSV11 “Do not lie to each other, since you have taken off your old self with its practices” ~Colossians 3:9 NIV นักจิตวิทยาก็ต้องการคำตอบว่า “ทำไมคนเราต้องพูดโกหก?” ด้วยเช่นกัน พวกเขาจึงขอให้ผู้เข้าร่วมการวิจัย ทำดังต่อไปนี้ 1.จดบันทึกประจำวันอย่างละเอียด 2.นำมาวิเคราะห์ ผลการวิเคราะห์ ซึ่งปรากฏว่า คนทั่วไปมักพูดโกหกโดยเฉลี่ยวันละ 1-2 ครั้งและ พบว่า 1.เรื่องที่คนเราพูดโกหกบ่อยที่สุด คือ เรื่อง 1).ความรู้สึก 2).ความชอบ 3).เจตคติ 4).ความคิดเห็น 2.เรื่องที่คนโกหกรองลงมา คือเรื่อง 1).การกระทำที่ได้ทำไปแล้ว 2).แผนการว่าจะทำอะไร รวมไปถึง 3).ความสำเร็จและล้มเหลวของตนเอง และต่อคำถามว่า “ทำไมคนเราต้องพูดโกหก?” คำตอบมีเหตุผล ตั้งแต่ 1.เพื่อได้หรือรักษาผลประโยชน์ 2.เพื่อความสะดวกสบายของตัวเอง 3.เพื่อปกปิดการกระทำที่ผิดศีลธรรม จริยธรรม หรือผิดกฎหมาย 4.เพื่อหลีกเลี่ยง 1).ความรับผิดชอบ 2).การถูกลงโทษ 3).ปัญหา 5.เพื่อปกป้องจิตใจตนเองและผู้อื่นจาก 1).ความเจ็บปวด 2).ความขัดแย้ง 3).การไม่ลงรอยกัน 6.เพื่อได้ชื่อเสียง การยอมรับนับถือ หรือ ทำให้ตนเองดูดีในสายตาคนอื่น ให้ 1).ดูโก้หรู 2).ดูเก่งกว่าความจริงที่ตนเองเป็น ซึ่งอาจทำให้รู้สึกดีกับตัวเองได้ชั่วคราว 7.เพื่อถนอมน้ำใจ รักษาหน้า รักษาความรู้สึกของคู่สนทนา หรือ เพื่อความสบายใจ 8.เพื่อทำร้ายหรือทำลายผู้ที่เราไม่ชอบหรือเกลียดชัง และสิ่งที่กระตุ้นให้คนเราโกหก เป็นเพราะ 1.เป็นสัณชาตญาณเอาตัวรอด แบบลืมตัว 2.เป็นนิสัย 3.เป็นค่านิยม หรือแรงจูงใจผิดๆ และ 4.เป็นวิถีชุมชนแวดล้อม การโกหกจึงเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นได้ทั้งกับ 1.คนที่ทำความผิดร้ายแรง และ 2.คนที่ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ดังนั้นโดยวิสัยมนุษย์เก่า เราทุกคนจึงล้วนแต่พูดโกหกกัน เพราะถือว่า 1.เป็นเรื่องปกติ หรือ 2).เป็นนิสัยตามธรรมชาติบาป แต่สำหรับคนที่กลับใจใหม่ได้รับการล้างชำระธรรมชาติบาปเดิม และรับความรอดจากพระเยซูคริสต์แล้วนั้น อีกทั้งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงชำระและสร้างเราขึ้นใหม่แล้ว เราจึงมีนิสัยใหม่ที่การพูดโกหก ไม่ใช่สิ่งปกติอีกต่อไป! พระคัมภีร์เตือนไว้ชัดเจนว่า คนโกหกจะต้องรับโทษ “พยานเท็จจะไม่ลอยนวลพ้นโทษ และ คนโกหกจะไม่พ้นผิด!” ~สุภาษิต 19:5 TNCV “A false witness won’t go unpunished, and a liar won’t escape.” ~Proverbs 19:5 CEB ดังนั้นอย่าให้เราเป็นคนโกหกไม่ว่าจะ 1.โกหกเพราะสถานการณ์ บังคับให้เอาตัวรอด(อย่างไม่เหมาะสม) 2.โกหกเพราะเป็นนิสัย 3.โกหกเพราะเจตนามุ่งร้ายหมายทำลายคนอื่น เพราะว่าเราจะต้องรับผลลัพธ์จากการโกหกนั้น ซึ่งมักจะจบลงอย่างไม่สวยงาม! พี่น้องที่รัก ขอให้เรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เป็นพี่น้องในพระกายของพระเยซูคริสต์ 1.จงหยุดพูดโกหกทุกรูปแบบ แต่ 2.จงพูดแต่ความจริงต่อกันด้วยความรักอยู่เสมอในทุกสถานการณ์ เหมือนดังที่ท่านอาจารย์ เปาโลกำชับไว้ว่า “เหตุฉะนั้นท่านจงเลิกพูดมุสาเสีย และ จงพูดความจริงต่อกัน เพราะว่าเราต่างก็เป็นอวัยวะของกันและกัน” ~เอเฟซัส 4:25 TH1971 “Therefore, after you have gotten rid of lying, “Each of you must tell the truth to your neighbor” because we are parts of each other in the same body.” ~Ephesians 4:25 CEB … เห็นด้วยไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 14มิถุนายน 2024 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc #คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี